วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

China House at Mandarin Oriental Hotel

hello..เพื่อนๆชาว blogger ที่น่ารัก
วันนี้..เป็นวันพิเศษที่  บัว  และ โอบอุ้ม จะมาอัพบล็อคด้วยกันนะคะ

ครั้งนี้หลังจากที่โอบอุ้มสัญญาว่าจะมาเล่าเรื่องการไปเที่ยวต่างประเทศ
มาเก๊า ฮ่องกง เสินเจิ้น ก็ต้องขอหยุดไว้ก่อน
ขอเก็บไว้คราวหน้านะคะ   เอาเป็นว่ารอบนี้..
ขอเล่าเรื่องการไป dinner 
China House Restaurant at Mandarin Oriental Hotel


ที่เลือกไปกินที่นี่..ก็เพราะ ยัยบัว ตัวแสบ
บ่นอยากกินอาหารจีนอยู่หลายวัน..
พี่อุ้มเลยจัดให้น้องบัวที่น่ารัก

โอเค๊ ไปกันเลย ที่นี่แหละ ตามใจน้องสาว



เริ่มแรกที่ไปถึง.. ก็มีผู้จัดการร้าน ซึ่งเป็น Singaporian มาแนะนำ เมนูต่างๆ
และได้ดูแล เทคแคร์เราสองคนได้ดีมากๆ รวมถึงพนักงานคนอื่นๆเช่นกัน


ต่อมา.. มาดูที่เมนูอาหารกัน ว่าบัวโอบอุ้ม สั่งอะไรกันบ้าง??
เริ่มที่เมนูแรกนะคะ.. Hors d'oeuvre สำหรับ China House 


เมนูนี้แถมมากินรองท้องกันก่อน
ไปดูภาพกันเลย...



ส่วนเมนูที่2 .. คล้ายๆหอยจ้อเลย
ถ้าพูดถึงรสชาติของเมนูนี้.. จะมีรสหวาน+เปรี้ยวนิดๆ กินแล้วไม่เลี่ยน
มีเนื้อเต็มปากเต็มคำ
เมนูนี้อร่อยถูกปากมากคะ 
รู้สึกไม่เหมือนที่อื่นที่จะมีส่วนผสมของแป้งค่อนข้างเยอะกว่านะ




พอจานที่2หมด เมนูที่3 ก็มาเลย...  เป็นซุป3อย่าง
มาดูซุปจานแรกที่เราสองคนทานกันนะคะ

ซุปหูฉลาม..ที่นี่ให้หูฉลามเยอะมากกกก มีลักษณะเป็นเส้นๆอย่างดี
กินแล้วรู้สึกได้เลยว่า ได้กินหูฉลามแบบเต็มคำจริงๆ



ส่วนซุปจานที่2 เป็น ซุปผัก
รสชาติ นุ่มๆ ไม่จืด ไม่หวานเกินไป
จานนี้...... พี่โอบอุ้ม ขอโบกมือ บ๊ายบายยย
โอบอุ้ม"ไม่กินผัก"คะ  ยกให้ไปเลยน้องบัว ^_^




ส่วนซุปจานสุดท้าย...  ซุปเสฉวน Sweet & Sour sauce
สำหรับจานนี้ เราสองคนลงมติกันแล้ว
จานนี้ใช่เลย เป็นซุปที่อร่อยที่สุด จาก1ใน3 ที่สั่งมากินกัน
เพราะว่า รสชาติลงตัวมาก ถ้าใครมากินที่นี่ บัวโอบอุ้มขอแนะนำคะ





หลังจากที่กินซุปเสร็จ ก็มาต่อกันที่เมนูนี้คะ
"เป็ดปักกิ่ง"

เป็ดปักกิ่งที่นี่ขอบอกว่าเด็ดคะ
ที่เด็ดก็เพราะว่า เป็ดที่นี่ไม่มีไขมันเลย แถมยังห่อ ให้เสร็จเรียบร้อย
สำหรับสาวๆที่รักษาหุ่น อยากบอกว่า กินได้เลย
กินแล้วอ้วนน้อยมาก แต่ถ้ากินเยอะก็อ้วนนะจ่ะ อิอิ





ต่อมาเป็นเมนูนี้... กุ้งแม่น้ำทอด กินกับเนื้อน้ำมันหอย
บัวและโอบอุ้ม ว่า เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีนะ
เมนูนี้ถูกใจเลย...


โอยยยยยย...  เริ่มอิ่มแล้วอ่ะ
มาจบกันที่ของหวานดีกว่าคะ
กับเมนูสุดท้าย เป็นของหวานที่อร่อยที่สุด

...เยลลี่ชาเขียว กับ น้ำมะนาว...


พอตักเยลลี่เข้าปากปุ๊ป ก็ต้องตามด้วย น้ำมะนาวต่อเลย
เพราะว่าทำให้เยลลี่ไม่แห้ง
แต่ทำให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น
ดูเหมือนจะเข้ากันยาก แต่ เมื่อลองทานแล้ว
เชื่อเลยว่า มันเข้าได้ดีจริงๆ อร่อยมากๆคะ
เมนูนี้บัวขอ2จานเลย^_^
แต่สำหรับโอบอุ้ม...  ไม่ไหวแล้วววววว
อิ่มมากกกกกกกก จ้า 55



หลังจากทานกันเสร็จก็ต่างแยกย้ายกลับบ้านกันไป...
สำหรับมื้อ Dinner ในค่ำคืนนี้ ของเราสองคน
เป็น Dinner ที่แฮปปี้ และสนุกสนานมากๆ
มีเสียงหัวเราะตลอดการทานอาหาร
ก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่น่ารัก
และ ประทับใจของเราสองคนมากคะ





ต่อมา...  บัวและโอบอุ้มมีลิ้ง ที่เราสองคนได้ให้สัมภาษณ์

โอบอุ้ม-บัว กับ ‘คำมั่นสัญญา’ ของเพื่อนซี้
เพื่อนและมิตรภาพ
 “เราจะคบกันตลอดชีวิต” คือคำมั่นสัญญาที่เซเลบริตี้สองสาวเพื่อนซี้อย่าง บัว-อาภาภัทร กัญจนพฤกษ์ บุตรสาวเจ้าของรีสอร์ทแสนโรแมนติกบนเกาะเต่า และ โอบอุ้ม-วัฒน์ธิดา ชุมสาย ณ อยุธยา ทายาทคนสวยของ ดร. ปาริชาติ ชุมสาย ณ อยุธยา กับคุณสุวัฒน์ สุขสงเคราะห์ มอบให้แก่กันนับแต่วันแรกที่พวกเธอรู้สึก ‘คลิก’ ในอุปนิสัยใจคอของกันและกัน




เป็นความสนุก เป็นความเข้าใจ เป็นมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นอย่างแน่นแฟ้นไม่เคยแปรเปลี่ยนตลอดระยะเวลา 5 ปีที่พ้นผ่าน  ครึ่งทศวรรษที่รักใคร่ผูกพัน ไม่เคยทำให้พวกเธอรู้สึกเบื่อหน่าย ตรงกันข้าม สาวน้อยร่างเล็กอย่างบัวยืนยันอย่างหนักแน่น “เราไม่เคยเบื่อกันเลยค่ะ รู้สึกเหมือนเพิ่งรู้จักกัน ความรู้สึกมันสดใหม่ทุกวัน จริงๆ นะ ” คำบอกเล่าและน้ำเสียงร่าเริงของบัวทำให้พี่สาวอย่างโอบอุ้มต้องหัวเราะให้กับความน่าเอ็นดูของเพื่อนรุ่นน้อง ก่อนที่พี่สาวจะขอเป็นฝ่ายบอกเล่าถึงความสนิทสนมของเธอทั้งคู่บ้าง

            “ เชื่อไหมคะ เมื่อไม่กี่วันก่อน อุ้มเพิ่งกลับจากฮ่องกง ทันทีที่ลงจากเครื่องแล้วเปิดโทรศัพท์ บัวเป็นคนแรกที่โทร.เข้ามาหาเลย คือพอถึงสนามบินปั๊บ! บัวก็โทร.เข้ามาปุ๊บเลย เหมือนเขารู้ เขาใส่ใจเราตลอดเวลา รู้ว่าเวลาไหนเราทำอะไร จะไปไหน”

            คำบอกเล่าถึงมิตรภาพและความจริงใจที่พวกเธอมีให้กัน ทำให้ยามเย็นกลางกรุงที่รถราขวักไขว่ กลับกลายเป็นห้วงเวลาอันแสนรื่นรมย์
 ทั้งคู่บอกว่า 5 ปีที่คบกัน เคยเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน เปิดเผยทุกเรื่องไม่เคยปิดบัง เข้าใจและยอมรับในตัวตนอีกฝ่าย มอบความจริงใจ เป็นกำลังใจให้ในยามที่ท้อแท้ ทั้งรักและปรารถนาดีต่อกันถึงขั้นตั้งกฎว่า เมื่อใดที่ใครคนใดคนหนึ่ง ได้เห็นได้ยินว่ามีใครพูดถึงอีกฝ่ายในทางลบ ถ้อยคำร้ายๆ เหล่านั้นจะไม่มีวันทำลายความผูกพันของพวกเธอได้ เพราะไม่เพียงเชื่อมั่นและเชื่อใจในกัน ทั้งคู่ยังพร้อมจะเปิดอกพูดคุยกันในทุกๆ เรื่องไม่ยอมให้คำพูดจาใส่ร้ายป้ายสี หรือถ้อยคำติฉินนินทาใดๆ มาทำลายมิตรภาพที่พวกเธอสร้างขึ้นด้วยความรัก ความเข้าใจ ดังที่โอบอุ้มยืนยัน



    “เราคบกันได้นานเพราะความจริงใจ ถ้าไม่จริงใจคุยอะไรกันก็อึดอัด แต่บัวกับโอบอุ้มคุยกันได้ทุกเรื่อง ลุยไหนลุยนั่น ตั้งแต่คบกันมาเราไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้งค่ะ เพราะถ้ามีอะไรไม่เข้าใจกันเราก็จะเปิดอกพูดคุยกันตรงๆ เราไม่เก็บอะไรไว้ให้ค้างคาใจ ทั้งอุ้มและบัวเป็นคนเปิดเผยด้วยกันทั้งคู่ แล้วเราก็เชื่อใจกัน ถ้ามีใครพูดอะไรที่ทำให้เราเข้าใจกันผิดๆ เราจะไม่หวั่นไหว แต่เราจะฟังความจริงจากกัน ไม่สนใจคำพูดให้ร้ายของใคร”



นอกจากความจริงใจ เปิดเผย ไม่มีความลับต่อกันแล้ว บัวยังเพิ่มเติมถึงความผูกพันของเธอกับพี่สาวคนสวย
            “บัวประทับใจพี่อุ้ม เพราะพี่อุ้มเป็นคนจิตใจดี คอยดูแล เอาใจใส่ คนรอบข้างเสมอ ไม่เลือกปฏิบัติ อย่างเช่นเวลาไปเที่ยวด้วยกัน พี่อุ้มไม่ได้คอยดูแลแล้วก็เป็นห่วงเป็นใยแค่บัวคนเดียว แต่ว่าคอยดูแลแล้วก็เอาใจใส่คนรอบข้างทุกๆ คนด้วย เป็นความน่ารักของพี่อุ้มที่บัวประทับใจ แล้วพี่อุ้มก็เป็นอย่างนี้ตลอดมา เสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน



จากวินาทีแรกที่พบกันเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายในรั้วโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา แล้วพี่สาวอย่างโอบอุ้มรู้สึกว่าน้องบัวคนนี้ ‘แรง!’ ส่วนน้องก็รู้สึกว่าพี่สาวอย่างโอบอุ้ม ‘หยิ่งชะมัด!’ กลับกลายเป็นความประทับใจ เมื่อได้พูดคุย สัมผัสกับตัวตนและทัศนคติของอีกฝ่ายเพื่อพบว่า เธอคนนี้ที่เมื่อแรก รู้สึกอคติ แท้แล้วเป็นคนที่แสนอบอุ่น จริงใจ ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ทั้งมีแต่ความรักและความจริงใจมอบให้แก่คนรอบข้างเสมอ

            สำหรับโอบอุ้ม บัวคือน้องสาวแสนน่ารัก เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้
            “บัวเป็นสิ่งสำคัญ เป็นสิ่งที่ชีวิตนี้ อุ้มคงขาดไม่ได้”




   สำหรับบัว โอบอุ้มคือพี่สาวที่เธอผูกพัน รักและเคารพราวกับเป็นพี่สาวร่วมสายเลือด

            “บัวรักและรู้สึกผูกพันกับพี่อุ้มเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ เป็นพี่สาวร่วมสายเลือด ถ้าให้เปรียบเทียบความผูกพันของบัวกับพี่อุ้มเป็นอะไรสักอย่าง บัวเปรียบเราเป็น ‘เงา’ ของกันและกันค่ะ อยู่เคียงคู่กัน ไม่มีวันพรากจากกัน” 

     หากถามว่า เมื่อหนุ่มๆ คนไหน นึกอยากก้าวเข้ามาทำความรู้จัก ขอเป็นคนพิเศษ เป็นคนสำคัญของใครคนใดคนหนึ่ง แล้วเธออีกคนจะทำอย่างไร ?

            “หนุ่มคนไหนจะเข้ามาจีบพี่อุ้มนะ เขาต้องเตรียมใจไว้เลยว่าบัวจะขอตามติดพี่อุ้มไปด้วยทุกที่ พี่อุ้มจะต้องมีเวลาให้บัว เขาจะไปไหนกับพี่อุ้มบัวก็จะขอไปด้วย เขาต้องเป็นที่ยอมรับของทั้งพี่อุ้มและบัว เป็นที่ยอมรับของทั้งครอบครัวพี่อุ้มแล้วก็ครอบครัวของบัวด้วย”

            สาวน้อยตัวเล็กอย่างบัวยืนยันหนักแน่นไม่ต่างจากพี่สาวสุดรักสุดหวงของเธอ ที่ย้ำว่า พร้อมจะ ‘สกรีน’ นิสัยใจคอของหนุ่มๆ ทุกคนที่จะฝ่าด้านเข้ามาคว้าหัวใจของน้องสาวคนนี้อย่างชนิดที่ว่าไม่มีวันปล่อยให้น้องตกไปอยู่ในมือของชายหนุ่มที่ไม่น่าไว้ใจเด็ดขาด









ทั้งรักทั้งหวงทั้งห่วงกันปานนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าถึงแม้ทั้งคู่จะยังไม่มีหนุ่มคนไหนเป็นคนพิเศษ แต่ทุกๆ วันของพวกเธอ ก็เต็มไปด้วยความสนุกสดใส

            เป็นโลกใบสวยที่มีแค่มิตรภาพมอบให้กัน…แค่นั้นก็พอ
ขอบคุณที่มา :ผู้จัดการออนไลน์..
เอื้อเฟื่อสถานที่โดย : Cafe Jardin at SIVATEL



ส่วนสำหรับค่ำคืนนี้.. บัวและโอบอุ้มก็ขอฝากข้อคิด ดีดีเหมือนเคย


บุคคลที่มีใจกว้างขวาง..  ย่อมได้รับความมั่งคั่ง
บุคคลผู้แสวงความดี ก็จะแสวงความพอใจ เพราะเราจะได้รับสิ่งดีดีตอบ
แต่ความชั่วร้ายมาถึงผู้ที่เสาะมัน
หูที่ฟังคำตักเตือนที่ให้ชีวิต จะอยู่ท่ามกลางปราชญ์
บุคคลผู้เพิกเฉยต่อคำเตือนสติก็ดูหมิ่นตนเอง
แต่บุคคลสนใจการทักท้วงก็ได้ความเข้าใจ
ฉะนั้นขอให้เรามีปัญญาอยู่ตลอดเวลา
และความถ่อมใจ*เดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ



ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ คะ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

Welcome bunny

วัดีค่ะ
ก ลั บ ม า พ บ กั บ พ ว ก เ ร า อี ก แ ล้ ว
คราวนี้ “โอบอุ้ม” กะ “บัว”
ห า ย...  เ ข้ า ก ลี บ เ ม ฆ กั น ไ ป เ ล ย 5 5 5
ส ง สั ย จ ะ ลื ม กั น ส ะ แ ล้ ว จ ริ ง ๆ   ฮ่ า ๆ ๆ




มาเริ่มที่ โอบอุ้ม กันเลยเนอะ
ที่โอบอุ้มหายไปเนี่ย เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า…
บริษัทที่อุ้มกำลังทำกับบัวอยู่เนี่ย ......  
แกล้งอุ้ม O_o"
เนื่องด้วยว่า ในหุ้นส่วนทั้งหมด (แค่3คน)
คือพูดดูเหมือนเยอะ ฮ่าๆๆ5555
อุ้มเป็นคนเดียวที่มีวีซ่าอังกฤษอยู่แล้ว...
พอถึงเวลา หุ้นส่วนผู้พี่ ก็ยื่นตั๋วเครื่องบินพร้อม*
พร้อมทุกอย่างจริงๆ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน insurance พร้อมผู้ติดตาม
อุ้มก้อ เออ… ไหนๆก็ไหนๆละ ไปก็ได้  เพื่อธุรกิจเรา*
ข้ามหน้า ข้ามทะเล ไปเลยจ้า  
ถึงแล้ว  ลอนดอน


ตอนแรกไปก็นึกว่า ชิว ชิว
โอ้โห!!!  หุ้นส่วนผู้พี่นี่จัดเต็มสตรีม
กะว่าเวลานี่ไม่ต้องปรับตัวกันเลยทีเดียว..  
ไปถึงก็ลุยงานเลยจ้า
คุยกับผู้ผลิตส่วนผสมครีมนู้นนี่นั้นโน้น
สรุปกันเลยว่า กะว่าจะไปช๊อปปิ้งบ้าง อะไรบ้าง
ไม่มีเวลาเลยจ้า รูปก็แทบไม่ได้ถ่าย
ทารุณกรรมอุ้มขั้นรุนแรงอ่ะ
อากาศก็หนาวมากกกก แบบไม่ไหวจะเคลียร์แล้วอ่ะ
โอ้ว! พระเจ้าจอร์จ หิมะตกเจ้าค่ะ

จบมันไป อย่าไปพูดถึงอีก ...
คิดสะว่า เราไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยวนะจ๊ะ
กลับมาถึงประเทศไทยปุ๊ป
เย็นของวันที่ 31 ธันวาคมแล้ว
OMG! แม่เรียกตามตัวกลับบ้านด่วน
หม่อมแม่เค้าออกกฎข้อบังคับจ้า
“เธอ..ต้อง CountDown กับชั้น”
จ้า รู้เรื่องจ้า
ฮ่าๆๆ คำว่ารู้เรื่องเนี่ย แปลว่ารับทราบ
พอเที่ยงคืนปุ้ป
เย้ๆๆๆๆ
HAPPY NEW YEAR MOMMY
HAPPY NEW YEAR N’BUA
HAPPY NEW YEAR EVERYBODY
แล้วก็ย่องๆๆ ไปปาร์ตี้บ้านเพื่อนสิจ๊ะ
ปีใหม่ทั้งทีให้นอนอุดอู้อยู่บ้านหรอ
ไม่ใช่แล้วววววว...
ต้องครื้นเครง วู้วววว***
เพื่อนๆสมัยมัธยมกว่า 20ชีวิตมารวมตัวกันแล้ว
อิอิ  โอบอุ้ม แฮปปี้ แฮปปี้
แต่ไม่ทันไร
โอบอุ้มก็ทยานขึ้นไปน่านฟ้าอากาศอีกเช่นเคย
คราวนี้ไปหลายที่เลยล่ะ  และไปเที่ยวด้วย
แต่เอาไว้เล่าคราวหน้าดีกว่าเนอะ
 ว่ า อุ้ ม ไ ป ไ ห น ม า บ้ า ง?    แ ล ะ ทำ อ ะ ไ ร?
แต่ขอแนะนำสายการบินที่อุ้มขึ้นดีกว่า
 **สายการบินนี้เป็นของ UAE  หรือ  อาหรับ เอมิเรตส์ **
เครื่องบินที่อุ้มขึ้นนี้ ถ้าธรรมดา อุ้มจะเอามาเล่าหรอ
ไม่มีทางสะหรอก...
สายการบินนี้ถือว่าเป็นสารการบินที่ Service ดีมาก
และเครื่องที่อุ้มขึ้นนั้น คือ  AIRBUS A380
เป็นเครื่องบินห้องโดยสารสองชั้นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เพียงแค่แรกเห็นก็ว้าวววว 
ลำใหญ่มากกกกกกก
พอเข้าไปนั่งอีก อู้ววววว ที่นั่งกว้างมาก
เวลาบินขึ้นลง ไฟไม่มีดับเลย
บินขึ้น บินลงได้นิ่มมาก
จนแทบไม่รู้เลยว่า กำลัง Take off or Landing
แต่ละเบาะที่นั่ง ก็จะมีจอส่วนตัว
จอใหญ่มากกกกกก
แถมหน้าจอชัดแบบสุดๆ 
ไม่มีกระตุก ให้หงุดหงิดจ๊ะ
แถบด้านข้างยังมีปลั๊กสำหรับชาร์จแบตต่างๆได้
พร้อมทั้งปลั๊ก USB เอาไว้สำหรับต่อฟัง MP3 อะไรก็ได้ตามใจชอบเลยค่ะ
หนังนี่ก็ใหม่มาก
Megamind พึ่งเข้าโรง แต่ โอบอุ้มก็ได้ดูพร้อมกับทุกคนเลย  
วิ้วววววววว..  โอบอุ้ม ไม่เอ้าท์ค่ะ   (^_^)
รวมถึง Service ของสายการบินนี้
ก็ไม่ธรรมดาเลยค่ะ มีข้าวปลาอาหารมาเสริฟทุกเที่ยวบิน
พร้อมทั้งมีสติ๊กเกอร์แจกตั้งแต่แรกนั่งเลย
เอาไว้แปะไว้ที่เบาะตามเราต้องการเลยค่ะ
แล้วไว้คราวหน้าสัญญาว่าจะมาเล่าถึงทริปนี้แน่นอนค่ะ
แต่เมื่อวันนี้.. โอบอุ้มกลับมาปุ๊ป
ก็ไปสัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กับบัว
ในฐานะ สองสาวเพื่อนซี้** เลิฟ เลิฟ
ก็เลยอยากจะขอนำรูปเบื้องหลังมาให้ดูพอหอมปากหอมคอค่ะ
เอาไว้ลงแล้ว จะนำมาให้ดูอย่างเต็มที่เลย
ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย***


... ก่อนจากลากันไปเช่นเคย ...
อุ้มก็ขอทิ้งคำพูดดีๆเอาไว้ย้ำเตือนให้สำหรับผู้ติดตามกันนะค่ะ
“เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า
นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ”
วันนี้ก็จากลากันเพียงเท่านี้ค่ะ 
บ๊ายบาย จุ๊ฟ จุ๊ฟ

  ต่อมา เป็นเวลาอัพของบัว บ้าง...

หลายๆวันที่ผ่านมาบัวก็ได้ไปทำโน่น ทำนี่ เยอะแยะมากมาย
ไปเดินแล่น ฟังเพลง ร้องคาราโอเกะ กินข้าว ออกกำลังกาย ..... 

เริ่มจาก ปีใหม่ที่ผ่านมา บัวก็ได้ไป เค้าดาวที่เกาะเต่าที่  ดุสิตบัญชา รีสอร์ท
บัวก็ไปกับครอบครัว  ไป3วัน 2คืน
พอถึงที่พัก ขอหลับเอาแรงก่อน
พอตกดึก ก็แต่งตัว ไปกินข้าว และฟังเพลง ชิวๆ
กิน กิน นอน นอน อยู่อย่างเนี่ย 3วัน


                                                 รูปนี้บัวถ่ายเอง ถ่ายจากมุมห้องนอน ^_^
                                                                    เป็นมุมที่สวยมาก
                                  

ส่วนรูปนี้ เป็นรูปที่พี่ชายกำลังแกล้งคะ บังเอิญถ่ายออกมา แล้ว สวยดี 555
ชอบทริปนี้มาก เป็นทริปที่สบ๊าย สบาย   อบอุ่น   และสนุกสุดๆเลย
                                       หลังจากกลับมาถึงกทม...   โอยยยย น้ำหนักขึ้นเลยยยย                                         
และสิ่งแรกที่อยากจะทำก็คือ อยากกินอะไรอร่อยๆ
และตอนนี้อยากกินอาหารจีน ม๊ากกกกกกกกกก
เด่วไว้บัวนัดพี่โอบอุ้มไปกินด้วยกันดีกว่า (^________^) ฮี่ฮี่


เมื่อคืนบัวได้อ่าหนหนังสือเล่มนึงมา
เป็นอีก ข้อคิดดีดี ที่อยากเอามาแชร์เพื่อนๆ
ซึ่งสอนเกี่ยวกับการโกรธ***
หนังสือเอเฟซัส 4:26-27 กล่าวว่า
ถ้าเราจะโกรธใครสักคน จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป**
อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่..

บุคคลที่โกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก** แต่บุคคลที่โมโหเร็ว ก็ยกย่องความโง่

อย่าให้ใจของเจ้าโกรธเร็ว**  เพราะความโกรธมีประจำอยู่ในทรวงอกของคนเขลา****


บุคคลผู้โกรธช้า ก็ดีกว่า คนมีกำลังมาก และบุคคลที่รู้จักควบคุมจิตใจของตนเอง ก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้ ซึ่งมีแต่จะทำให้พังพินาศและ เสียหาย


ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมจิตใจของคุณเอง
 คุณจะไม่มีวันเอาชนะเรื่องใดได้เลย
ความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ เปรียบเหมือน
โยนหินเข้าไปในรังต่อ  ***





*****และ สำหรับคืนนี้*****
 บัวโอบอุ้มก็ขอลาไปก่อน
แล้วจะกลับมาอัพเดทชีวิตสนุกๆอีกนะคะ
ฝันดี* ราตรีสวัสดิ์ คะ